"ว่ายน้ำไม่เป็น ก็เรียนดำน้ำได้" เป็นวลีที่ดูเข้าถึงได้ง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยอันตรายหลายอย่างที่เป็นอันตรายต่อนักดำน้ำเองอย่างมาก และมันน่ากลัวมากๆที่มีการนำวลีนี้มาทำการตลาดออกสื่อกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งช่องทางของร้านดำน้ำ และช่องทางสื่อสารมวลชน แต่สำหรับเรามันคือสิ่งที่น่ากลัวมากจากหลายๆประการด้วยกัน
"ว่ายน้ำเป็น" กับ "ว่ายน้ำไม่เป็น"
จะบอกว่าใครว่ายน้ำเป็น กับว่ายน้ำไม่เป็น สำหรับการดำน้ำนั้นมีหลักการที่ชัดเจนและง่าย คือสำหรับผู้ที่เรียน Open Water Diver นั้นจะต้องสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ลอยตัวหน้าพ้นน้ำเป็นเวลา 10 นาที โดยถ้าใส่เวทสูท จะต้องมีการถ่วงน้ำหนักให้มีการลอยตัวเป็นกลาง
สามารถว่ายน้ำได้โดยเลือกหนึ่งในสองวิธีจากนี้
ว่ายน้ำตัวเปล่าโดยไม่หยุดเป็นระยะทาง 200 เมตร (ไม่กำหนดเวลา)
ว่ายน้ำด้วยอุปกรณ์สน็อกเกิล (หน้ากาก,ท่อสน็อกเกิล,และตีนกบ) เป็นระยะทาง 300 เมตร (ไม่กำหนดเวลา)
ถ้าทำได้ตามนี้ ไม่ว่าจะว่ายน้ำเป็นหรือว่ายน้ำไม่เป็น ก็พร้อมที่จะเป็นนักดำน้ำได้ทั้งนั้น
Standards ที่กำหนดอย่างชัดเจน
ในฐานะที่ Blue Culture Diving เป็น Dive Center ของ SSI ที่มีมาตรฐานการฝึกสอนตาม World Recreational Scuba Training Council (WRSTC) และมีมาตรฐานฝึกสอนตาม ISO 24801-2 สำหรับการฝึก Open Water Diver หรือ Autonomous Diver หรือนักดำน้ำที่สามารถดำน้ำได้โดยไม่ต้องมีการกำกับควบคุมจากนักดำน้ำมืออาชีพ
ซึ่งในมาตรฐานการฝึกนั้น ไม่ว่าจะเป็น ISO, WRSTC, หรือองค์กรดำน้ำที่เราสังกัดอย่าง SSI ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะต้องมีการประเมินความพร้อมในน้ำอย่างชัดเจนว่าจะต้องมีการว่ายน้ำตัวเปล่า 200 เมตร หรือพร้อมกับอุปกรณ์ระบบสน็อกเกิลเป็นระยะทาง 300 เมตร และต้องมีการฝึกการลอยตัวบนผิวน้ำเป็นเวลา 10 นาทีให้ได้ และการที่ WRSTC นั้นเป็นสภาที่ประกอบไปด้วยองค์กรดำน้ำหลักๆเช่น PADI, SSI, SDI/TDI, RAID, IANTD, ฯลฯ ย่อมบอกเป็นนัยว่า ทุกองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งของ WRSTC นั้นควรจะต้องใช้มาตรฐานเดียวหรือใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกันถึงคุณภาพการเรียนการสอนได้
เรายังยืนยันอีกครั้งว่าการเรียนดำน้ำแบบ SCUBA diving นั้น จะว่ายน้ำเป็น หรือไม่เป็น หากไม่สามารถทำให้เห็นได้ว่านักเรียนสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมร่างกายเมื่ออยู่ในน้ำ (Water Fitness Evaluation) นั้น ตามหลักเกณฑ์ของ SSI แล้วจะกำหนดไว้ว่านักเรียนไม่สามารถออกสอบภาคทะเลได้ เกณฑ์ประเมินนี้ย่อมสะท้อนถึงความปลอดภัยของผู้ที่เรียนดำน้ำโดยตรง ซึ่งนักเรียนต้องผ่านเกณฑ์ประเมินก่อนการออกภาคปฏิบัติทางทะเลอีกด้วย ตราบใดที่องค์กรดำน้ำไม่ยกเลิกหลักการประเมินนี้ ก็ต้องถือเป็นหลักการที่ต้องใช้ในการเรียนการสอนดำน้ำลึก
อันตรายระหว่างการเรียน
การดำน้ำลึก คือการ"นำพามนุษย์ไปอยู่ใต้น้ำโดยใช้เครื่องหายใจพยุงชีพ" ซึ่งมีความเสี่ยงมากมายทั้งเรื่องทางสรีระวิทยาและทางจิตวิทยา สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นนั้นมักจะเกิดความกลัวและเกิดความเครียดเมื่อต้องทำทักษะที่ไม่สบายใจที่จะต้องทำ เช่น ถอดใส่หน้ากากใต้น้ำ หรือการนำเร็กกูเลเตอร์ออกจากปากใต้น้ำ หรือทักษะอื่นใดที่เกิดขึ้นและต้องแก้ไขปัญหาใต้น้ำ นำพาให้เกิดความเครียดและแรงกดดันที่มากเกินไป จนเกิดอาการวิตกกังวลเกินไปจนหาความสุขในการดำน้ำไม่ได้ และเกิดอาการตื่นตกใจจนไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าและเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ความกดดันนั้นอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดถึงเหตุการณ์ต่อไปนี้ได้
ระหว่างเรียน มีความกดดันที่เห็นเพื่อนในคลาสเรียนทำได้ แต่เราทำไม่ได้แล้วกดดันตัวเอง เกิดความเครียดและไม่สามารถทำทักษะได้ ทำให้คลาสมีการล่าช้าทำให้เกิดการกดดันว่าเป็นตัวถ่วงของกลุ่ม ทำให้ไม่อยากเรียนต่อได้
ระหว่างการดำน้ำ หากเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุจากอุปกรณ์ดำน้ำ หรือสภาวะพลัดหลงและมองไม่เห็นกลุ่ม มักจะทำให้นักดำน้ำตื่นตระหนกได้ง่าย
ระหว่างการเดินทางด้วยเรือ หากมีเหตุให้พลัดตกจากเรือโดยไม่มีอุปกรณ์พยุงตัว อาจะทำให้จมน้ำได้เร็วมากเพราะไม่สามารถลอยตัวหรือว่ายน้ำได้
ความเครียดต่อสภาวะใต้น้ำโดยรวม ทำให้การดำน้ำไม่สนุกเท่าที่ควรเป็น
อย่าเอาชีวิตตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่น
การเรียนดำน้ำนั้นมีข้อสำคัญข้อหนึ่ง คือนักดำน้ำต้องดูแลตัวเองได้ในระดับที่เหมาะสมกับวุฒิบัตรของตัวเอง การที่คิดว่าให้คนอื่นดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูสอนดำน้ำ หรือหลีดนั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะผู้นำกลุ่มดำน้ำเองนั้นจะดูแลนักดำน้ำทุกคนอย่างเต็มความสามารถอยู่แล้ว แต่ย่อมไม่สามารถให้สมาธิให้กับนักดำน้ำคนใดคนหนึ่งได้ 100% เสมอไป จะต้องแบ่งกันให้นักดำน้ำท่านอื่นๆในกลุ่มด้วยเช่นกัน หากต้องคาดหวังให้ผู้นำกลุ่มคอยช่วยดูแลใต้น้ำ และผิวน้ำ ย่อมเป็นชุดความคิดที่สร้างความเสี่ยงให้ตัวเองอย่างไม่จำเป็น นักดำน้ำที่ได้รับวุฒิบัตรระดับ Open Water Diver อย่างน้อยควรจะดูแลและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง
อย่าลืมว่า ก่อนเรียนดำน้ำลึก เราจะต้องเซ็นเอกสารหลักๆสามฉบับ นั่นคือ
SSI Responsible Diver Code หรือ Standard Safe Diving Practices Statement of Understanding
เราได้รับรู้และเข้าใจว่าการดำน้ำอย่างปลอดภัยนั้นจะต้องมีข้อควรกระทำใดบ้าง และการไม่สนใจข้อควรกระทำดังกล่าวอาจจะมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักดำน้ำ
Medical Statement
เป็นการแถลงข้อมูลสุขภาพให้กับร้านดำน้ำและครูสอนดำน้ำให้รับทราบถึงสุขภาพของนักเรียน ก่อนทำการเรียนดำน้ำ เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้ หากมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับการดำน้ำ
Liability Release and Hold Harmless Agreement
เป็นการเซ็นเพื่อยอมรับการยินยอมและสมัครใจที่จะเรียนดำน้ำลึก และเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินและชีวิตได้ และสละสิทธิ์ในการเรียกร้องความเสียหายใดๆทางกฎหมาย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการดำน้ำ
เรียนว่ายน้ำ ทำได้ง่ายๆ
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการดำน้ำ การฝึกว่ายน้ำและการฝึกลอยตัวเบื้องต้นนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ ซึ่งจริงๆแล้วหลักการประเมินการว่ายน้ำและการลอยตัวนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ง่ายและทำได้จริง ซึ่งหากไม่อยากว่ายน้ำตัวเปล่า 200 เมตร ก็สามารถเลือกให้ระบบสน็อกเกิลและว่ายน้ำ 300 เมตรแทนได้ แต่ด้วยระบบสน็อกเกิลจะช่วยให้การว่ายน้ำน่ากลัวน้อยลงอย่างชัดเจน และการฝึกลอยตัวนั้นสามารถเริ่มได้ที่น้ำตื้นยืนถึง และมีเพื่อนคอยช่วยแนะนำ หากอยากได้พื้นฐานที่ดี สามารถลงเรียนว่ายน้ำเบื้องต้นเล็กน้อย จะทำให้การดำน้ำนั้นปลอดภัยมากขึ้นทวีคูณ
ถ้าดูตามหลักมาตรฐานแล้ว ทุกคนที่อยากดำน้ำได้ควรมีทักษะที่สามารถเอาตัวรอดกับน้ำได้ในระดับหนึ่ง นอกจากประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินแล้ว การที่นักดำน้ำรู้สึกคุ้นชินกับการอยู่กับน้ำ กับการว่ายน้ำ จะทำให้การดำน้ำปลอดภัยมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่าลืมว่ากิจกรรมดำน้ำนั้นเป็นกิจกรรมที่ผิดพลาดนิดเดียวนั้นอันตรายถึงชีวิต การที่มีวลีการตลาดเรื่องว่ายน้ำไม่เป็นก็เรียนดำน้ำได้นั้น เป็นการเพิ่มโอกาสการขายให้กับกลุ่มคนทั่วไปที่อยากหากิจกรรมใหม่ๆทำ แต่ถ้าหากไม่คุ้นชินกับน้ำแล้ว และประเมินตนเองผิดพลาดระหว่างการเรียน และตัดสินใจออกภาคทะเลทั้งที่ยังไม่แน่ใจ อาจจะเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ และอาจทำให้ไม่สามารถดำน้ำได้อีก หรือเสียชีวิตไปเลยก็ได้
สำหรับคนที่อยากปลดล็อค เอาชนะความกลัวน้ำของตัวเองด้วนการมาเรียนดำน้ำลึกนั้นบอกได้เลยว่าส่วนใหญ่จะเป็นการปิดผนึกเสียมากกว่า ควรจะไปเริ่มเรียนว่ายน้ำเบื้องต้นเสียก่อน และค่อยมาปลดล็อคดำน้ำจะสนุกและปลอดภัยที่สุด
คำตอบของเราว่า ว่ายน้ำไม่เป็นแล้วดำน้ำได้ไหม ก็คงตอบได้ว่า ร้านดำน้ำที่บอกว่าได้คงไม่มีห้าม และพยายามพูดถึงบอกว่าอุปกรณ์ต่างๆมีหน้าที่อย่างไร จะช่วยเราได้อย่างไร การว่ายน้ำต้องออกแรงและหาจังหวะหายใจ แต่อุปกรณ์ดำน้ำจ่ายอากาศให้เราเมื่อหายใจตลอดเวลา และเป็นชุดทักษะคนละชุดกัน ทั้งที่คนว่ายน้ำเป็น หรือว่ายน้ำไม่เป็น มาเรียนดำน้ำลึกก็ต้องเข้าใจการทำงานของอุปกรณ์นี้ทั้งนั้น และใช่มันเป็นอุปกรณ์พยุงชีพใต้น้ำ
แต่พิจารณากันให้ดีว่าเรากำลังเอาตัวเองลงน้ำ และลงไปใต้น้ำความลึกเป็นสิบเมตร การว่ายน้ำเป็นสักหน่อย เสียเวลาเรียนว่ายน้ำเพิ่มสักนิดจะลดความเสี่ยงที่นักเรียนจะต้องพบพานได้อย่างมีนัยยะสำคัญ อย่าลืมว่าการสอนดำน้ำวิชาชีพ และเป็นธุรกิจบริการอย่างหนึ่ง ที่จำเป็นต้องใช้จรรยาบรรณไม่ต่างกันกับวิชาชีพอื่นๆ ซึ่งมีทั้งดี และไม่ดีปะปนกันไป
สำหรับเรา เทคนิกในการเรียนดำน้ำสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น ที่ดีที่สุดคือ "ไปเรียนว่ายน้ำซะหน่อย" เพราะความปลอดภัยมันไม่มีทางลัด เอาเบื้องต้นก็ยังดี เพราะครูสอนดำน้ำเราก็ไม่ได้ว่ายน้ำเก่งมากขนาดนั้นหรอกนะ เพราะการดำน้ำถึงแม้ชุดทักษะนั้นไม่เหมือนกับการว่ายน้ำ แต่การที่นักดำน้ำรู้สึกคุ้นชินและสบายตัวกับน้ำย่อมเพิ่มความปลอดภัยได้มาก การเสียเวลากับคลาสว่ายน้ำ 2-3 วันแลกกับประสบการณ์ดำน้ำที่ดีกว่ามากมาย ย่อมคุ้มค่า คุ้มเวลา
เราอยากบอกว่าเราสามารถสอนว่ายน้ำเบื้องต้นได้สำหรับผู้ที่สนใจและว่ายน้ำไม่เป็น เพื่อประเมินความพร้อมก่อนดำน้ำได้อีกด้วย โดยสามารถติดต่อโดยตรงได้ทีร้านของเราเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเรื่องการฝึกว่ายน้ำก่อนเรียนดำน้ำ หากมีข้อคิดเห็นเรื่องว่ายน้ำไม่เป็น ก็เรียนดำน้ำได้ สามารถแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ตลอดเวลา
หยุดเชื่อคำขายของว่า "ดำน้ำไม่เป็น ก็เรียนดำน้ำได้" ได้แล้ว
Comments